ดิฉันมีอาชีพเป็นครู เมื่อสองปีมาแล้ว ปวดโคนนิ้วหัวแม่มือขวา คุณหมอรักษาโดยการฉีดยาให้อาการปวดก็หายไป แต่เมื่อประมาณสามเดือนที่แล้ว ดิฉันมีอาการอย่างเดิม จำได้ว่าวันนั้น เขียนหนังสืออยู่หลาย ชม. ยังไม่ทันเสร็จ ก็ปวดนิ้วเดิม อาการเพิ่มขึ้น จึงไปหาหมอ คุณหมอบอกว่าวีธีรักษาจะกินยาหรือผ่าตัดก็ได้ แต่ไม่แนะนำให้ฉีดยาซ้ำ ดิฉันเลยเลือกกินยา เพราะมีดใครบ้างไม่กลัว

ยานั้นเป็น vioxx ผลข้างเขียงคือเจ็บหน้าอกนิดหน่อย ดิฉันรอดูว่ามันยังไม่เจ็บถึงแขนก็ไม่ว่าอะไร อีกอย่างหนึ่งคือเพราะเป็นโรคกระเพาะ พออาหารตกถึงท้องจะปวดท้องมาก ต้องหยุดยา กินข้าวต้มกับนมอยู่หลายวัน

ดิฉันเคยได้ยินว่า ถ้าเป็นโรคสำคัญ ให้ปรึกษาหมอ 3คน ดิฉันไปหาหมออีกคน คุณหมอบอกเหมือนคนแรก คือกินยาหรือผ่า สั่งยาให้แล้วให้แช่นิ้วนั้นในน้ำอุ่น

ตอนนี้อาการพัฒนาไปอีกขั้น คือนิ้วงอ พอแช่น้ำอุ่นจึงยืด แล้วก็งอใหม่ ดิฉันไม่ทราบจะจัดการอย่างไร ก็เลยเล่นกับมัน นิ้วพองอแล้วเหมือนม้าหมากรุก ก็ได้ทักทายมันทุกวัน แต่มันเป็นม้าหมากรุก มันก็เลยปวดอยู่อย่างเดียว

ตอนนี้อาการปวดเพิ่มขึ้น ดิฉันกังวลมาก คุณหมอบอกว่าถ้าผ่า ต้องพักสองอาทิตย์ ดิฉันไม่ทราบว่าจะเอาเวลาสองอาทิตย์ที่ไหนมาพัก เวลาเกิดความป่วยไข้ นอกจากความทรมานก็มีความกังวลว่าโรคจะพัฒนาไปอย่างไรต่อ เท่าที่เป็นอยู่ ในตอนนั้น คือเขียนหนังสือไม่ถนัด ดิฉันถนัดซ้าย เขียนหนังสือเท่านั้นที่ใช้มือขวา น่าจะเป็นจากอาชีพ

จนวันหนึ่ง เพื่อนที่จะเกษียณให้หนังสือฤทธิ์มีดสั้นปลดนิ้วล็อก ผู้เขียนคือ นพ. วิชัย วิจิตรพรกุล จากหนังสือ ดิฉันทราบว่าคุณหมอคิดนวัตกรรมรักษาอาการที่ท่านตั้งชื่อว่า “ นิ้วล็อก” (Trigger Finger ) โดยกล่าวสรุปว่า “ นิ้วล็อกเป็นภัยเงียบ, ป้องกันได้ รักษาให้ช่วยหายขาดได้ ”

วิธีรักษา คุณหมอใช้เครื่องมือที่ประดิษฐ์เอง ด้วยกรรมวิธีที่ตรงตามค่านิยมในสังคมปัจจุบัน คือ” รีไซเคิล” ขูดหินปูนที่ไม่ใช้แล้วของทันตแพทย์

คุณหมอที่อยู่ รพ เลิดสิน ออกตรวจเช้าวันจันทร์ และเช้าวันพฤหัสบดีได้ประสบความสำเร็จในการ” ปลด ล็อก” ช่วยให้คนไข้พ้นทุกข์มาแล้วหลายพันคน

(public spirit) คือทำงานด้วยน้ำใจ รักษาด้วยความเต็มใจจะช่วยเพื่อนมนุษย์ให้พ้นความทุกข์ทรมานจากโรคร้าย

เมื่อถึงคิวพบคุณหมอ ท่านซักประวัติการปลดนิ้วถามอาการ และวินิจฉัยว่าต้องผ่าตัด

แล้วคุณหมอก็ส่งดิฉันไปให้คุณพยาบาลเตรียมการ เริ่มตั้งแต่ล้างมือด้วยการฆ่าเชื้อโรค แล้วพันผ้าไว้ คอยที่จะผ่าตัด

ก่อนหน้าดิฉัน มีคนไข้2คน การผ่าตัดเริ่มจากให้คนไข้นอนเตียงผ่าตัด หันศีรษะให้ข้างมือที่จะผ่ามาทางคุณหมอ ล้างมือด้วยยาฆ่าเชื้อโรคอีกครั้ง รัดข้อมือห้ามเลือด วางผ้าที่เปิดช่องที่จะผ่าตัด ฉีดยาชา ตอนผ่าตัดจริงๆน่าประทับใจมาก คุณหมอจับเครื่องมือเฉพาะกิจที่ไม่อาจหาได้ในห้องผ่าตัดอื่นใดคล้ายจับปากกา ฟัลครัม(fulcrum) อยู่ที่สันมือโคนนิ้วก้อย ใช้เครื่องมือเขี่ยส่วนที่เป็นด้วยความแม่นยำ มีสมาธิแล้วปิดแผล [ ดิฉันต้องเสียใจกับคนไข้ที่ผ่าตัดทั้งที่ไม่มีโอกาสเจ็บตัว]

ถ้าไม่นับการเตรียมการ การผ่าตัดจริงๆใช้เวลาไม่ถึง 5นาที คือถ้าใครโทรศัพท์เข้ามาตอนนั้น ดิฉันก็จะไม่เห็นกระบวนการนี้

หลังการผ่าตัด คุณหมอปิดแผล สั่งห้ามแผลถูกน้ำและให้กลับมาดูแผลหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น และสั่งยาแก้ปวด

คืนวันนั้น รู้สึกตึงๆที่แผล เขียนหนังสือไม่ได้ แต่ไม่มีไข้ แต่พอวันรุ่งขึ้น ความตึงแผลและการเจ็บปวดก็หายไป ใช้มือได้แต่เพียงเลี่ยงถูกน้ำ

พอพฤหัสบดีต่อมาก็ไปให้คุณหมอดูแผล มีรอยผ่าตัดอยู่ประมาณรอยดินสอ ทายาอีกครั้ง กลับบ้านได้

ดิฉันชื่นชมคุณหมอคิดวิธีใหม่ “ ปลดล็อก” อย่างเรียบง่าย ประหยัดทั้งค่าใช้จ่าย เวลา สุขภาพจิต และได้ผลสูงสุด และขอขอบพระคุณคุณหมอที่ดิฉันได้รับผลประโยชน์จากนวัตกรรมนี้ด้วย